ทำไมผมขับจักยานล้อใหญ่แล้วมีแต่คนมอง ที่มองเพราะมันเท่หรือว่าล้อมันใหญ่
คงเป็นคำถามที่ยากจะตอบ แต่สิงที่ไอสไตน์ค้นพบคือพลังและสสารคือสิงที่แปรเปลี่ยนไปมาได้สสารต่าง ๆที่เราเห็นล้วนแต่เป็นรูปแบบหนึ่งของพลังที่ก่อรูปขึ้นมาเป็นระบบที่แน่นอนถ้ามองเช่นนี้ พลังก็คือ ฐานแห่งธรรมชาติพอมาถึงจุดๆ นี้ เราก็คงจะได้คำตอบว่าทำไมธรรมจึงเป็น อนัตตาเพราะถ้าพื้นฐานธรรมชาติ คือพลังพลังโดยพื้นฐานเป็นสิงที่ไม่มีตัวตนที่แน่นอน จักรยานล้อใหญ่ ราคา ไม่สามารถจับต้องได้อะไรคือทางสู่การพ้นทุกข์ผมกล่าวไว้แล้วว่า ทั้งวิทยาศาสตร์และปรัชญาตะวันออก (พุทธ และเต๋า) เชื่อคล้ายกันว่า ชีวิตเป็นทุกข์และต้องต่อสู้ดิ้นรนไม่สินไม่สุดแต่ทั้งสามแนวคิดเสนอทางออกจากทุกข์ที่แตกต่างกันอย่างมากวิทยาศาสตร์จะอธิบายว่ามนุษย์ถูกจำกัดมากมายด้วยความจำกัดทางธรรมชาติที่ดำรงอยู่ดังนั้นหนทางพ้นทุกข์คือการคิกษาเรียนรู้และเข้าใจกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติและหาทางเอาชนะธรรมชาติ และปรับธรรมชาติเข้ามารับใช้มนุษย์พุทธมองโลกคล้ายกันบนพื้นฐานความเชื่อเรื่องความทุกข์ แต่พุทธ-ศาสนาเสนอว่าจะพ้นทุกข์ได้ก็ต้องสลัดหลุดจากกฎพื้นฐานทางธรรมชาติเช่นกฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จักรยานแนวใหม่ และกฎการเวียนว่ายตาย เกิดในขณะที่เต๋าก็คงมองมนุษย์ไม่ต่างกันนักในเรื่อง ทุกข์แต่ทางออกของเต๋า คือ การปรับตัว หรือปรับดุลและการพยายามรักษาดุลไว้ใครเล่าถูก ใครเล่าผิด ยากที่จะกล่าวแต่เท่าที่เห็นปัจจุบันคือนักฟิสิกส์สมัยใหม่ทั้งหมด เริ่มหันกลับมาตั้งคำถามต่อความเชื่อทางวิทยาศาสตร์สมัยเก่ามากขึ้น และมากขึ้นเรื่อย ๆกล่าวคือ นักฟิสิกส์กำลังอยู่ในสภาวะจนมุม(ใครสนใจเรื่องนี้ ลองอ่านงานเรื่อง The end of science)สภาวะจนมุมเกิดจาก 2 เงื่อนไขเงื่อนไขแรกคือ นักวิทยาศาสตร์เริ่มตระหนักถึงความจำกัดในการเรียนรู้ และเข้าใจโลกผ่านวิถีวิทยาศาสตร์ตัวอย่างที่ขัดคือการคิกษาเรื่องอนุภาคซึ่งเป็นอะไรก็ไม่แน่กล่าวคืออนุภาคขนาดเล็กมีคุณสมบัติสองด้าน ด้านหนึ่งคือความเป็นคลื่นหรือพลังอีกด้านหนึ่งก็ จักรยาน fat bike เป็นคล้ายวัตถุที่มีตัวตนมีตำแหน่งแห่งที่แน่นอนแต่พอจะหาว่าอนุภาคนี้มีตำแหน่งแห่งที่อยู่ที่ใดแน่ก็ไม่สามารถรู้ว่ามันเคลื่อนตัว สันไหวอย่างไรคือรู้อย่างหนึ่งก็ไม่รู้อย่างหนึ่ง และไม่สามารถรู้คุณสมบัติอีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกันได้ความจริงแล้วสิงนี้ไม่ได้ลึกลับอะไรนักถ้าเราเข้าใจว่า ฐานธรรมมีด้าน 2 ด้านประกอบกัน อย่างเช่นที่เตำเชื่อกล่าวคือ ทุกอย่างประกอบด้วยหยางกับหยิน เมื่อปรากฏการณ์หยางแสดงตนก็จะกลบปรากฏการณ์หยินลงไป หมายความว่าเมื่อพบหยางชัดเจนเท่าไรเราก็ไม่สามารถหาด้านที่เป็นหยินพบได้หรือหาพบปรากฏการณ์หยินก็จะไม่สามารถพบปรากฏการณ์หยางในเวลา เดียวกันนี่หมายความว่าเราหรือ fat bike มนุษย์ที่แท้มีความจำกัดในการรับร้ความจริง ไดอยางสมบูรณ์ประการที่สอง ควอนตันฟิสิกส์ ได้ค้นพบ“หลักแห่งความไม่แน่นอน”ซึ่งหันกลับมาท้าทายคำว่า Science เพราะคำว่าScience มีความหมายถึงการสามารถควบคุมพิสูจนี้!ด้และมีความแน่นอนเป็นพื้นฐานบรรดานักฟิสิกส์สมัยใหม่จึงก็ต้องกลับลำแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มหันมาเชื่อกฎแห่งความไม่แน่นอนและความจำกัดที่จะน่าเอากฎธรรมชาติมาปรับใช้อย่างไม่ระมัดระวังเพราะผลที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลด้านลบที่ยากจะควบคุมได้เพราะไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์อีกต่อไปว่า การค้นพบเช่นเรื่องต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ
จักรยานล้อโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น